บทความ

การเลือกซื้อเครื่องรัดกล่อง             การเลือกซื้อเครื่องรัดกล่อง จะเป็นประโยชน์สำหรับหลายท่านที่สนใจจะซื้อเครื่องรัดสายรัดพลาสติก หรือเครื่องแพคบรรจุภัณฑ์ เพื่อใช้ในงานของตนเอง แต่เลือกไม่ถูกว่าจะเลือกสินค้าแบบไหน และรุ่นไหนดี เรามีข้อแนะนำดังนี้ (ข้อมูลมาจาก www.สายรัดพลาสติกไทย.com) 1. ประเภทของเครื่องรัดกล่อง             เครื่องรัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ เครื่องรัดแบบอัตโนมัติ (Automatic Packing Machine) การใช้งานจะเป็นการรัดแบบออโต้(ภาพขวามือสุด) ข้อดีคือ ใช้งานง่าย เพียงแค่วางสินค้าบนเครื่องรัด เครื่องก็จะทำการรัดสินค้าเองโดยอัตโนมัติไม่ต้องใช้มือเข้าไปจับสายรัด เหมาะสำหรับสินค้าที่มีขนาดเดียวกันที่ต้องการรัดอย่างรวดเร็ว ส่วนข้อเสียก็คือสินค้าที่ใช้แพคต้องมีขนาดเล็กกว่าคานอุโมงค์บนของเครื่อง และที่สำคัญราคาแพงพอสมควร      เครื่องรัดอีกประเภทหนึ่งคือ เครื่องรัดแบบกึ่งอัตโนมัติ (semi-Automatic Packing Machine) เครื่องรัดประเภทนี้ก็ใช้งานง่ายเพียงแค่นำสินค้ามาวางบนเครื่อง ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็สามารถรัดได้ โดยใช้มือจับสายรัดสอดเข้าไปในเครื่อง ที่สำคัญราคาไม่แพงมาก และเป็นเครื่องที่ถูกนำมาใช้งานมากที่สุด  2. การนำเข้าของเครื่องรัดสายรัด               เครื่องรัดที่ใช้ในงานบรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจาก 3 ประเทศหลัก คือ ประเทศญี่ปุ่น ใต้หวัน และจีน คุณภาพก็เป็นไปตามลำดับดังกล่าว เครื่องรัดญี่ปุ่นจะมีราคาแพงสุด รองลงมาคือใต้หวัน เครื่องรัดใต้หวันจะถูกนำมาใช้กันแพร่หลายมาก เนื่องจากราคาจับต้องได้ ใช้งานทนทานพอสมควร ส่วนเครื่องรัดจากจีนราคาจะถูกสุด แต่วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ก็เป็นไปตามราคา          ปัญหาคือ มีผู้จำหน่ายหลายเจ้าได้นำเครื่องรัดจากจีนมาบอกกับลูกค้าว่าเป็นสินค้านำ เข้าจากประเทศใต้หวัน…

เครื่องรัดกล่องยี่ห้อไหนดี ที่เหมาะสมกับการใช้งานบรรจุภัณฑ์          หลายท่านที่ทำธุรกิจหรือโรงงานอาจมีความต้องการใช้งาน เครื่องรัดกล่อง เครื่องแพ็ค หรือเครื่องรัดสายรัดพลาสติก แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อยี่ห้อไหนดี เวลาเสิร์ชหาข้อมูลใน google ก็มีเครื่องแพ็คเสนอขายเต็มไปหมดหลากหลายยี่ห้อ เรามีแนวทางสำหรับลูกค้าที่ต้องการหาเครื่องรัดสำหรับมือใหม่ครับ ยี่ห้อของเครื่องสำคัญหรือไม่?            คำตอบคือ ไม่สำคัญเลย เพราะว่าผู้ขายเครื่องรัดส่วนใหญ่มีทั้งที่เป็นผู้นำเข้า และเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย ซึ่งส่วนมากจะนำไปสร้างเป็นแบรนด์หรือยี่ห้อของตนเอง เช่น บริษัทดีเยี่ยม นำเครื่องเข้ามา ก็จะตั้งชื่อว่า “ดีเยี่ยม” เป็นต้น ดังนั้นถ้าจะเลือกซื้อเครื่องสักตัว อย่าไปดูที่ยี่ห้อเพียงอย่างเดียวว่าเป็นยี่ห้ออะไร แต่ให้พิจารณาประเด็นอื่นๆด้วย เครื่องรัดกล่องนำเข้าจากประเทศอะไร? เครื่องรัดกล่องโดยส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากประเทศจีน และประเทศใต้หวัน ของญี่ปุ่นหรือของทางยุโรปก็มีนำเข้ามากแต่จะไม่มากเท่าเนื่องจากมีราคาแพง ดังนั้นเครื่องรัดส่วนใหญ่ในท้องตลาดเป็นเครื่องจากประเทศจีนและประเทศใต้หวัน ถ้าเป็นเครื่องที่นำเข้าจากญี่ปุ่น หรือใต้หวัน ก็จะมั่นใจในคุณภาพได้ดีกว่าเครื่องที่นำเข้าจากจีน แต่ไม่ใช่ว่าเครื่องรัดจากจีนจะแย่ไปหมด เครื่องจีนเกรดดีก็มี แต่ก็ต้องพิจารณาดีๆเหมือนกัน ดังนั้นถ้าเป็นเครื่องเกรดดีก็จะมีคุณภาพดี ให้ความทนทาน และใช้งานได้ยาวนานกว่า รวมถึงไม่ค่อยมีปัญหาจุกจิกกวนใจ ไม่ใช่ใช้เพียงไม่กี่ครั้งก็ต้องเรียกช่างถ้าเป็นอย่างนี้ก็เครียดทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย การใช้งานเครื่องรัดกล่องของผู้ซื้อ ให้ดีที่สุดควรบอกลักษณะงานของลูกค้ากับผู้ขายว่า     งานที่ต้องการนำไปใช้นั้น  มีสภาพเป็นอย่างไร ระยะเวลาในการใช้งาน ปริมาณของงานในแต่ละวัน ฯลฯ ผู้ขายที่มีประสบการณ์และจริงใจก็จะให้รายละเอียดข้อมูลกับลูกค้าได้เป็นอย่างดี เพราะเครื่องรัดบางประเภทก็ไม่เหมาะที่จะนำไปใช้กับงานที่โหลดจนเกินไป หรือกรณีที่ลูกค้าต้องการเน้นที่ความแน่นของสินค้าอย่างมาก ก็ต้องพิจารณาถึงกลไกบางอย่างเช่นเฟืองและลูกกลิ้งของเครื่องว่าทนต่อการดึงได้มากหรือไม่ นอกจากนี้สภาพแวดล้อมทีมีความชื้นอย่างกรณีของห้องเย็นก็ควรเลือกเครื่องให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมดังกล่าวด้วย หรือต้องพิจารณาถึงขนาดของสินค้าที่ต้องการรัด การจำกัดของเนื้อที่ทำงาน ความสูงต่ำของสินค้าที่ต้องการรัด ความเร็วในการรัดสินค้าฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นแนวทางในการเลือกซื้อเครื่องทั้งนั้น สิ่งต่างๆเหล่านี้เป็นเพียงเกร็ดเล็กน้อยเท่านั้นเอง และให้ดีที่สุดลูกค้าลองเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับ “การเลือกซื้อเครื่องรัดสายรัดพลาสติก” ซึ่งเป็นแนวทางในการดูลักษณะของสภาพเครื่องทั้งโครงสร้างภายนอกและกลไกภายใน เพื่อเป็นแนวทางในการหาเครื่องรัดกล่องให้เหมาะกับงานของเราต่อไป สอบถามเพิ่มเติม (098)429-9324   บทความที่เกี่ยวข้อง…

เครื่องรัดกล่อง UTHOPACK              วันนี้ขอนำเสนอ เครื่องรัดกล่อง หรือ เครื่องแพ็ค เครื่องรัดสินค้า เครื่องรัดสายรัดพลาสติก แล้วแต่จะเรียกครับ เครื่องรุ่นนี้เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศไต้หวัน เอกลักษณ์ที่สำคัญของเครื่องรัดกล่องตัวนี้คือ ตัวเครื่องจะมีสีขาวครีมดูสะอาดตาโครงสร้างแข็งแรงพอสมควร เป็นเครื่องรัดคุณภาพในระดับกลาง แต่ก็ต้องระวังเหมือนกันเพราะเครื่องรัดจากจีนที่สีคล้ายกันก็มีหลากหลายในท้องตลาด ฝาเครื่องตัวนี้ทำจากสแตนเลส มีความหนาพอสมควร รองรับสินค้าที่มีน้ำหนักมากๆได้สบาย เพียงแต่อย่าโยนสินค้าลงบนเครื่องก็แล้วกัน เพราะมีลูกค้าหลายท่านทำธุรกิจเกี่ยวกับขายอุปกรณ์อะไหล่ที่มีน้ำหนัก เมื่อคนงานแบกสิ่งของมาแพ็คก็จะใช้วิธีโยนลงบนเครื่องเลย นานๆไปฝาก็เป็นแอ่งได้ครับ เพราะแรงกระแทก ไม่ว่าจะให้แข็งขนาดไหนก็ตาม แต่ถ้าใช้อย่างปกติจะใช้งานได้สบายหายห่วง ข้อดีของฝาสแตนเลสก็คือไม่เป็นสนิมใช้ได้อย่างยาวนานจริงๆ กลไกภายในเครื่องรัดกล่องUTHOPACK            เมื่อเปิดเข้าไปดูกลไกภายในเครื่องรัดกล่อง ระบบภายในเครื่องจากใต้หวันทั่วไปหน้าตาจะไม่แตกต่างกันมากครับในเรื่องของกลไกการทำงาน แต่เนื้องานจะดูดีและเนียนกว่าเครื่องรัดกล่องจากจีนมากพอสมควรในเรื่องของ ความเนียนและความแข็งแรงของชิ้นงานต่างๆ ถ้าใครเคยใช้งานเครื่องรัดจากจีนมาแล้วลองเปรียบเทียบก็จะเห็นได้ชัดเจน ส่วนกลไกภายในอื่นๆจะไม่แตกต่างกับเครื่องรัดที่นำเข้าจากใต้หวันจะคล้ายกันครับ ไม่ว่าจะเป็นความแข็งและเหนียวของใบมีด ส่วนบล็อกใบมีดทำจากเหล็กหล่อ ทำให้ทนต่อการสึกกร่อนจากแรงกระแทกขึ้นลงของใบมีดได้ดี ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นจุดดี เพราะมีเครื่องใต้หวันบางรุ่นเหมือนกันที่ใช้บล็อกเป็นแบบอลูมิเนียม ซึ่งการใช้งานที่ยาวนานมักส่งผลต่อการหลวมของบล็อกใบมีดจนแก้ไขลำบาก   นอกจากนี้ชุดเฟืองของเครื่องรัดกล่องถือว่ามีความเหนียวมาก เพราะผลิตมาจากเนื้อไนล่อนเกรดดี ตั้งแต่มีการจำหน่ายเครื่องมาไม่เคยเจอปัญหาเฟืองหักเลยครับ จึงต่างกับเครื่องรัดจากจีนราคาถูกๆ ที่ใช้เฟืองพลาสติกที่ทำโดยการฉีดเม็ดพลาสติกให้เป็นรูปเฟือง ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยมากที่สุดเลยคือการหักของฟันเฟือง การรูดของรูกลางเฟือง รวมถึงการหักของตัวเฟืองเอง เนื่องจากการเสียดสีระหว่างเฟืองด้วยกันทำให้กินเนื้อเฟืองกันเอง ระบบไฟ และแผงวงจรของเครื่องรัดกล่องUTHOPACK       จุดเด่นที่สำคัญของเครื่องรัดกล่องตัวนี้อีกอย่างก็คือระบบไฟ แผงวงจรที่จดสิทธิบัตรเฉพาะตัว การทำงานของวงจรที่แยกอิสระจากกัน ทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและซ่อมบำรุง และแผงวงจรมีความคงทนทีเดียว ระบบการทำงานไม่ซับซ้อนเหมือนกับเครื่องสมัยก่อน             ระบบการทำงานของมอเตอร์(รูปซ้าย)จะมีกล่องควบคุมอัจฉริยะ ทำให้เครื่องหยุดการทำงานได้เองโดยอัตโนมัติเมื่อหยุดการใช้งาน จึงไม่ต้องกังวลกับปัญหามอเตอร์ใหม้จากความร้อนได้ ประสิทธิภาพในการใช้งานเครื่องรัดกล่องUTHOPACK          ด้านการใช้งานส่วนใหญ่พบว่ามีความคงทนและใช้งานได้ดีเกินค่าตัวของเครื่องรัดระดับกลาง…

5 ขั้นตอนในการดูแลเครื่องรัดกล่อง            ลูกค้าหลายท่านได้ซื้อเครื่องรัดกล่อง หรือเครื่องรัดสายรัดพลาสติกเพื่อไปใช้รัดหรือแพ็คสินค้า บางท่านดูแลรักษาเครื่องเป็นอย่างดีก็ย่อมใช้งานได้อย่างยาวนาน ไม่ค่อยประสบกับปัญหาต่างๆในการใช้งาน แต่ก็มีหลายท่านที่ใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ก็ย่อมส่งผลให้เครื่องมีสภาพที่โทรมและเสียหายเร็ว ในบทความนี้จะมาแนะนำเทคนิคหรือวิธีการง่ายๆในการดูแลเครื่องรัดกล่อง หรือเครื่องแพคของเราเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น โดยแบ่งเป็นหัวข้อ ได้ดังนี้ ข้อควรระวังในการดูแลเครื่องรัดกล่อง 1.อย่าโยนสิ่งของที่ต้องการรัดลงบนเครื่อง      วิธีการที่ดีที่สุดก็คือการวางลงไปอย่างปกติ ส่วนใหญ่ปัญหานี้มักจะเกิดกับการรัดสินค้าที่มีน้ำหนักมาก เช่นสินค้าที่มีน้ำหนักมากกว่า 50 กิโลกรัม ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเครื่องสามารถรับน้ำหนักสินค้าดังกล่าวได้ เพราะตัวเครื่องจะมีคานรองรับน้ำหนัก แต่การโยนกระแทกบ่อยครั้งย่อมเสียหายต่อฝาของเครื่องทำให้เกิดการยุบตัวและเป็นแอ่งได้ นอกจากนี้แรงกระแทกยังส่งผลทำให้ลูกล้อของเครื่องพังตามมาได้ในอนาคต 2.ใช้สายรัดที่ได้มาตรฐานกับเครื่อง        เครื่องรัดโดยทั่วไปจะมีลูกกลิ้งที่ทำหน้าที่ป้อนและดึงสายรัด ดังนั้นสายรัดที่มีความหนาพอดีไม่เกินช่องว่างของลูกกลิ้งก็จะไม่มีปัญหาการติดขัด รวมทั้งสายรัดที่มีความเหนียวไม่แตกหักง่าย ก็จะไม่ส่งผลให้เศษผงต่างๆเข้าไปอุดตามลูกกลิ้งหรือช่องทางเดินสายรัดต่างๆของเครื่อง 3.เป่าฝุ่นและหยอดน้ำมันเสมอ      โดยส่วนใหญ่แล้วการใช้เครื่องไปนานๆ สิ่งที่สะสมมากที่สุดก็คือบรรดาฝุ่นผงต่างๆ โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นพวกโรงทำไม้ โรงเลื่อย หรือโรงงานที่มีเศษฝุ่นผงมาก  ตัวเศษฝุ่นผงเหล่านี้มักจะเข้าไปอุดตันตามช่องทางเดินของสายรัด ดังนั้นควรหมั่นใช้เครื่องเป่าลมเป่าบ่อยๆ นอกจากนี้การหยอดน้ำมันในจุดที่สำคัญของเครื่องโดยเฉพาะช่องฝาไสล์และใบมีดก็จะช่วยให้เกิดการหล่อลื่นไม่ติดขัดด้วย 4.เก็บเครื่องรัดให้มิดชิดหลังการใช้งาน      ปัญหานี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งกับสถานที่ทำงานที่มีความสกปรก ผลที่เกิดขึ้นคือกรณีที่หนูเข้าไปกัดสายไฟของเครื่องรัด หรือฉี่ของหนูทำให้แผงวงจรช๊อตเสียหาย ดังนั้นสถานที่บางแห่งที่มีหนูเยอะก็อาจจะต้องเก็บเครื่องรัดไว้ในห้องที่มิดชิด หรือไม่ก็ต้องสั่งทำตะแกรงกันหนูภายในเครื่องก็จะป้องกันได้ 5.กลไกบางอย่างไม่ควรปรับตั้งเอง      เช่นบล็อกใบมีด เพราะการตั้งไม่พอดีย่อมส่งผลต่อการตัดสายรัดไม่ขาดได้ และยังอาจทำให้สายรัดเข้าไปติดขัดด้วย หรือการปรับตั้งลูกกลิ้งป้อนและดึงสายรัดก็ไม่ควรปรับตั้งเอง เพราะการปรับตั้งที่ผิดเพี้ยนย่อมส่งผลให้สายรัดไหลเข้าออกเองเกิดความไม่เสถียรขึ้น ดังนั้นกรณีที่ไม่แน่ใจควรเรียกช่างเข้าไปปรับตั้งจะดีที่สุด 6.ควรมีการพักเครื่องระหว่างการใช้งานที่ยาวนาน      ลูกค้าหลายท่านที่เข้าสู่ฤดูช่วงหน้างาน ซึ่งต้องทำงานอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงอาจจะแทบไม่มีเวลาได้หยุดพัก เครื่องรัดก็เหมือนกับรถยนต์…

การหยุดทำงานของเครื่องรัดกล่อง   การตัดการทำงานโดยอัตโนมัติของเครื่องรัดกล่อง           เมื่อเริ่มเปิดสวิตซ์ POWER หน้าเครื่องรัดสายรัด เครื่องก็จะเข้าสู่โหมดการเริ่มต้นทำงาน โดยภายในเครื่องจะมีมอเตอร์ ซึ่งเป็นระบบ Auto Stop ขนาด 1/4 HP มอเตอร์ตัวนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนของกลไกต่างๆภายในเครื่องรัดสายรัดทั้งหมดผ่านเกียร์ทด โดยมอเตอร์จะทำการหมุนต่อเนื่องตลอดเวลาในขณะที่เราทำการเปิดเครื่อง การหมุนของมอเตอร์ตลอดระยะเวลาในการทำงานนี้เองย่อมส่งผลต่อตัวมอเตอร์โดยตรงในเรื่องของการสะสมความร้อน ซึ่งอาจจะทำให้มอเตอร์ร้อนจัดและไหม้เสียหายได้ นอกจากนี้การหมุนต่อเนื่องย่อมส่งผลต่อการสูญเสียของต้นทุนในการทำงานด้วย ดังนั้นในระบบเครื่องรัดสายรัดแบบใหม่จึงมีการเพิ่มกล่องควบคุมการทำงานของมอเตอร์ จากภาพบน เราจะเห็นภาพขยายของกล่องควบคุมภายในเครื่องรัด โดยด้านข้างของกล่องจะมีสวิตซ์ควบคุม ซึ่งสวิตซ์ดังกล่าวจะทำหน้าที่เปิดปิดเพื่อเข้าสู่โหมดการหยุดการทำงานโดยอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าเมื่อผู้ใช้หยุดการทำงานไปสักพัก เครื่องก็จะหยุดการทำงานโดยอัตโนมัตินั่นเอง ข้อสังเกตุ          ในกรณีที่เครื่องรัดสายรัดของลูกค้ามีอาการมอเตอร์หมุนตลอดเวลา แม้ว่าจะหยุดการทำงานไปพักหนึ่งแล้วก็ตาม ก็ให้ดูสวิตซ์ที่กล่องควบคุมดังกล่าวว่าได้มีการเปิดสวิตซ์หรือไม่ ซึ่งโหมดดังกล่าวก็จะช่วยรักษาเครื่องรัดของลูกค้าได้อย่างยาวนานยิ่งขึ้นไป สอบถามเพิ่มเติม (098)429-9324    

การใส่สายโอริงในเครื่องรัดสายรัด   คู่มือเครื่องรัดสายรัด-การเปลี่ยนสายโอริง           โดยทั่วไปแล้วเครื่องรัดสายรัดจะปรับความแน่นได้ โดยตัวปรับความแน่นจะอยู่ด้านหลังของเครื่อง โดยเราสามารถปรับตามเข็มนาฬิกาได้ และจากภาพจะเห็นสิ่งที่ติดกับตัวปรับความแน่นก็คือ ขายึดตัว L , สปริง, สายโอริง(สีขาว) และสายพานเส้นใหญ่(สีดำ) การใช้งานในระยะเวลายาวนาน สายโอริงย่อมเสื่อมไปตามสภาพ และอาจขาดลงได้ ทำให้เครื่องไม่สามารถตัดสายรัดได้ ดังนั้นการแก้ไขก็คือการใส่สายโอริงเข้าไปใหม่ โดยมีขั้นตอนง่ายๆ คือ        ขั้นตอนแรก : ให้ถอดขายึดตัว L ออก (ขันน๊อต 2 ตัว)        ขั้นตอนที่ 2 : ให้เอาสายโอริงเส้นใหม่ใส่คล่อมกับตัวปรับความแน่น (ใส่เข้าด้านหลังเครื่อง)        ขั้นตอนที่ 3 : ใส่ขายึดตัว L กลับเข้าไปเหมือนเดิม           เพียงเท่านี้เราก็สามารถเปลี่ยนสายโอริงได้อย่างง่ายดาย ข้อแนะนำอย่าให้สายโอริงโดนน้ำมัน ส่วนเครื่องของท่านใดมองเข้าไปแล้วไม่เห็นสายโอริงก็อย่าเพิ่งตกใจ เพราะเครื่องรัดสายรัดบางรุ่นอาจจะทำระบบเซนเซอร์มาแทนระบบสายโอริงก็ได้ นายยูโธป ช่างสามัญประจำร้าน

การหยอดน้ำมันในเครื่องรัดสายรัด คู่มือเครื่องรัดสายรัด-การหยอดน้ำมัน             อุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องรัดสายรัด อีกอย่างหนึ่งก็คือ ชุดใบมีด และฝาไสล์ เนื่องจากชุดใบมีดจะมีการทำงานตลอดเวลาโดยการเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเพื่อการตัดสายรัดพลาสติกให้ขาด ในขณะที่ฝาไสล์ก็จะเลื่อนเข้าออกตลอดเวลาในระหว่างการทำงาน ดังนั้นการหมั่นหยอดน้ำมันชุดกลไกนี้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญ จากรูปขวามือ จะเห็นหมายเลข 4 จุด คือ จุดที่ 1-3 จะมีรูข้างฝาไสล์ ก็ให้ผู้ใช้งานหยอดน้ำมันเข้าไปในรูดังกล่าวเพื่อให้ฝามีความลื่น ส่วนจุดที่ 4 คือจุดตรงใบมีดก็ให้หยอดน้ำมันเช่นกัน การหยอดน้ำมันบ่อยๆ ก็จะช่วยให้อุปกรณ์กลไกทำงานได้คล่องตัว และยังเป็นการช่วยรักษาเครื่องรัดสายรัดในระยะยาวด้วย            หมายเหตุ : ข้อระวังในการหยอดน้ำมัน อย่าให้น้ำมันไปโดนชุดครัชไฟฟ้า หรือพวกสายพาน สายโอริง เพราะอาจส่งผลต่อการจับสายรัดระหว่างการทำงานได้ นายยูโธป ช่างสามัญประจำร้าน  

การใช้งานเครื่องรัดกล่อง         การใช้งานเครื่องรัดกล่อง UTHOPACK เป็นการนำเสนอแนวทางการใช้งานในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ 1.การใส่ม้วนสายรัดลงในเครื่องรัดกล่อง          ปกติเครื่องรัดทุกเครื่องจะมีภาพประกอบติดอยู่ตรงด้านข้างของเครื่องฝั่งที่ใส่ม้วนสายรัด ก็ให้ใส่สายรัดตามรูปภาพดังกล่าว แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ การที่สายรัดหลุดออกจากม้วนจนพันกัน ดังนั้นผู้ใช้จะต้องนำม้วนสายรัดใส่ลงไปในจานล้อภายในตัวเครื่องก่อน แล้วปิดฝาจานล้อให้แน่น หลังจากนั้ให้ทำการแกะฟิล์มออกจากม้วนสายรัด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้ดึงฟิล์มที่หุ้มสายรัดออกให้หมด มิฉะนั้นเศษของฟิล์มอาจเข้าไปติดในร่องของเครื่องรัด ทำให้สายรัดติดขัดระหว่างการใช้งานได้         ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้ใช้มักพบเจอก็คือสายรัดไม่ขึ้นมาจากเครื่องรัด บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานครั้งแรกจะเรียกช่างให้เข้าไปดูเครื่อง เพราะคิดว่าเครื่องมีปัญหาสายรัดติดจึงไม่ไหลขึ้นมาบนเครื่อง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะพบว่าผู้ใช้งานลืมเอา สายรัดใส่ลงในขาเบรค จึงทำให้ม้วนของสายรัดเคลื่อนตัวไม่ได้ สายรัดจึงดึงไม่ขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่ใส่ม้วนสายรัดลงในเครื่องรัด ให้ผู้ใช้งานใส่ตามภาพในเครื่องเป็นหลักก็จะไม่พบกับปัญหาดังกล่าว 2.การตั้งร่่องเครื่องรัดกล่อง         เครื่องรัด UTHOP จะตั้งร่องสายรัดได้หลายระดับ ทำให้สามารถใส่สายรัดขนาดตั้งแต่ 9 มิล ไปจนถึง 15 มิลได้ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งร่องได้เองโดยง่าย ซึ่งปกติตัวร่องจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ หมายเลข 1 ร่องสายรัดเข้า          เมื่อเรานำม้วนสายรัดใส่เข้าไปในเครื่องรัดแล้ว สายรัดจะเข้าร่องนี้เป็นร่องแรก ปกติร่องนี้อาจจะตั้งให้กว้างสุดก็ได้ เพราะเป็นร่องด้านล่าง แต่ถ้าให้ดีก็ควรตั้งให้พอดีกับขนาดความกว้างของสายรัด โดยการคลายน๊อตออกให้หลวม แล้วเลื่อนความกว้างของช่องให้พอดี หลังจากนั้นก็ขันน๊อตให้แน่น หมายเลข 2 ร่องสายรัดออก และหมายเลข 3 ร่องสั่งให้รัด         ร่องทั้ง 2 ร่องนี้ก็ปรับตั้งได้ง่ายๆ…