การใช้งานเครื่องรัดกล่อง
การใช้งานเครื่องรัดกล่อง UTHOPACK เป็นการนำเสนอแนวทางการใช้งานในขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้เกิดความถูกต้องและเกิดประสิทธิภาพในการใช้งาน โดยแบ่งออกเป็นขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1.การใส่ม้วนสายรัดลงในเครื่องรัดกล่อง

ปกติเครื่องรัดทุกเครื่องจะมีภาพประกอบติดอยู่ตรงด้านข้างของเครื่องฝั่งที่ใส่ม้วนสายรัด ก็ให้ใส่สายรัดตามรูปภาพดังกล่าว แต่ปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดขึ้นคือ การที่สายรัดหลุดออกจากม้วนจนพันกัน ดังนั้นผู้ใช้จะต้องนำม้วนสายรัดใส่ลงไปในจานล้อภายในตัวเครื่องก่อน แล้วปิดฝาจานล้อให้แน่น หลังจากนั้ให้ทำการแกะฟิล์มออกจากม้วนสายรัด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือให้ดึงฟิล์มที่หุ้มสายรัดออกให้หมด มิฉะนั้นเศษของฟิล์มอาจเข้าไปติดในร่องของเครื่องรัด ทำให้สายรัดติดขัดระหว่างการใช้งานได้

ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้ใช้มักพบเจอก็คือสายรัดไม่ขึ้นมาจากเครื่องรัด บ่อยครั้งที่ผู้ใช้งานครั้งแรกจะเรียกช่างให้เข้าไปดูเครื่อง เพราะคิดว่าเครื่องมีปัญหาสายรัดติดจึงไม่ไหลขึ้นมาบนเครื่อง ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มักจะพบว่าผู้ใช้งานลืมเอา สายรัดใส่ลงในขาเบรค จึงทำให้ม้วนของสายรัดเคลื่อนตัวไม่ได้ สายรัดจึงดึงไม่ขึ้น ดังนั้นทุกครั้งที่ใส่ม้วนสายรัดลงในเครื่องรัด ให้ผู้ใช้งานใส่ตามภาพในเครื่องเป็นหลักก็จะไม่พบกับปัญหาดังกล่าว
2.การตั้งร่่องเครื่องรัดกล่อง

เครื่องรัด UTHOP จะตั้งร่องสายรัดได้หลายระดับ ทำให้สามารถใส่สายรัดขนาดตั้งแต่ 9 มิล ไปจนถึง 15 มิลได้ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับตั้งร่องได้เองโดยง่าย ซึ่งปกติตัวร่องจะประกอบไปด้วย 3 ส่วนคือ
หมายเลข 1 ร่องสายรัดเข้า

เมื่อเรานำม้วนสายรัดใส่เข้าไปในเครื่องรัดแล้ว สายรัดจะเข้าร่องนี้เป็นร่องแรก ปกติร่องนี้อาจจะตั้งให้กว้างสุดก็ได้ เพราะเป็นร่องด้านล่าง แต่ถ้าให้ดีก็ควรตั้งให้พอดีกับขนาดความกว้างของสายรัด โดยการคลายน๊อตออกให้หลวม แล้วเลื่อนความกว้างของช่องให้พอดี หลังจากนั้นก็ขันน๊อตให้แน่น
หมายเลข 2 ร่องสายรัดออก และหมายเลข 3 ร่องสั่งให้รัด
![]() |
![]() |
ร่องทั้ง 2 ร่องนี้ก็ปรับตั้งได้ง่ายๆ เหมือนร่องที่ 1 โดยการคลายน๊อตให้พอขยับตัวได้ หลังจากนั้นก็ปรับเลื่อนตำแหน่งความกว้างเช่นเดียวกัน
หมายเหตุ : การตั้งร่องสายรัดควรให้มีความกว้างมากกว่าความกว้างของสายรัดเล็กน้อยเพื่อให้เกิดการไหลผ่านได้สะดวก นอกจากนี้ควรหมั่นดูความสะอาดของร่องว่ามีเศษอะไรเข้าไปติดตามร่องหรือไม่ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการวิ่งของสายรัดได้
3.การวางสิ่งของบนเครื่องรัดกล่อง

มีผู้ใช้หลายท่านใช้เครื่องรัดสายรัดกับสินค้าแล้วพบว่า มีปัญหากับการรัดสินค้าไม่แน่น โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นรูปทรงกลม เช่น การรัดท่อ PVC หรือการรัดม้วนสิ่งของต่างๆ วิธีแก้ไขที่ง่ายที่สุดเลยก็คือ ให้ลูกค้าถอดเหล็กตัวกั้นสินค้า (รูปตัว L) ออก แล้วจึงค่อยแพคสินค้านั้นใหม่ เหตุผลเนื่องจากว่า สินค้าทรงกลมเมื่อวางใกล้กับเหล็กตัว L แล้ว มันจะเกิดช่องว่างระหว่างตัวสินค้ากับตัวกั้น (ตามรูปภาพด้านบน) เหล็กตัว L จึงเป็นตัวรั้งสายรัดไม่ให้แนบกับตัวสินค้าที่เป็นทรงกลม ปัญหานี้จึงต่างกับการใช้เครื่องรัดสินค้าที่เป็นรูป 4 เหลี่ยม เช่น การรัดกล่อง เพราะสินค้าทรงเหลี่ยมจะแนบกับเหล็กตัวกั้นโดยไม่มีช่องว่าง
4.สวิทซ์การทำงานเครื่องรัดกล่อง

ด้านหน้าของเครื่องรัดสายรัด เราจะเห็นแผงหน้าปัดโดยจะมีสวิตซ์ต่างๆ ซึ่งมีหลักการทำงานดังนี้
หมายเลข 1
สวิตซ์เปิดปิดเครื่อง(POWER) เมื่อเราเสียบปลั๊กเข้ากับไฟบ้าน 220 โวลต์ ก็ให้ทำการเปิดสวิตซ์ตัวนี้เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน
หมายเลข 2
วอลลุ่มปรับความยาวของสายรัดพลาสติก(TIMER) เราสามารถตั้งความยาวเพื่อให้สายรัดวิ่งออกมาตามความต้องการได้ โดยดูจากขนาดของสินค้าที่ต้องการจะรัด
หมายเลข 3
ปุ่มรีเซท (RESET) ปุ่มนี้เมื่อเราทำการกดครั้งแรก สายรัดพลาสติกจะทำการถอยหลัง และเมื่อเรากดครั้งที่สอง เครื่องก็จะทำการตัดสายรัดทันที ซึ่งจะใช้กับกรณีที่บางครั้งปลายสายรัดอาจจะขาดรุ่ย หรือไม่เรียบ และเราต้องการตัดตรงปลายสายรัดที่เสียนั้นก็ให้กดรีเซท เมื่อสายรัดไปถึงตำแหน่งใกล้กับบริเวณที่เสีย ก็ให้กดปุ่มอีกครั้งเครื่องก็จะตัดปลายสายรัดนั้น
หมายเลข 4
การฟีด (FEED) บางครั้งสิ่งของที่ต้องการจะรัดของผู้ใช้งานอาจจะมีหลายขนาด ปุ่ม FEED ก็สามารถช่วยได้โดยการกดค้างไว้ สายรัดก็จะไหลออกมาตามความต้องการของผู้ใช้งานได้
หน้าปัดสวิตซ์ควบคุมที่ไม่ซับซ้อน จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือเชี่ยวชาญอะไรเลย
5.การปรับความร้อนของเครื่องรัดกล่อง

ฮีตเตอร์ความร้อนในเครื่องรัด มีหน้าที่เพื่อให้เนื้อสายรัดพลาสติกสามารถซีลติดกันได้ ถ้าเราตั้งเวลาได้พอเหมะก็จะทำให้สายรัดติดกันแน่น โดยเฉพาะสายรัดที่ผลิตมาจากเม็ดพลาสติกล้วน (ต่างจากสายรัดแป้งที่ติดเฉพาะผิว) จากภาพด้านซ้ายมือจะเป็นรูปกล่องแผงวงจรที่อยู่ภายในเครื่องรัด ด้านข้างของกล่องจะมีวอลลุ่มปรับความร้อน (ให้หมุนที่วอลลุ่มเพื่อปรับระดับความร้อน)

หมายเหตุ : เครื่องบางรุ่นวอลลุ่มควบคุมความร้อนของฮีตเตอร์อาจจะแยกออกมาต่างหากกับกล่องแผงวงจร (ตามลูกศรสีแดง) แต่การทำหน้าที่และการปรับระดับความร้อนจะเหมือนกัน

